นิทานพื้นบ้าน เรื่อง หมอลำจัมโบ้
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น ณ วัดป่าถ้ำสามพระเณร และ หมู่บ้านโคกอีเต่า โดยมีอยู่วันหนึ่ง เจ้าอาวาสที่วัดป่าถ้ำสามพระเณรได้รับโทรศัพท์จากโยมทางกรุงเทพ มีใจความว่า เดือนหน้าจะทำผ้าป่ามาถวายวัด ซึ่งเจ้าอาวาสก็ยินดีเป็นยิ่งนัก เพราะนานที จะมีผ้าป่ามาทอดที่วัดสักทีหนึ่ง หลังจากนั้นมา ไม่กี่อาทิตย์ เจ้าอาวาสก็ได้ประชุมกับทางผู้ใหญ่บ้าน ว่าให้เตรียมตัวรับคณะผ้าป่าจากกรุงเทพไว้ โดยได้จัดเตรียมจัดการเตรียมการจ้างหมอลำ และหนัง โดยหนังก็หนัง 2 จอ ทางชาวบ้านก็ไม่พอใจบอกว่าจะเอาคณะใหญ่ๆ แพงๆ ให้สมกับที่เป็นการรอคอยผ้าป่าที่ไม่เคยมีขึ้นเลยในรอบเกือบ 20 ปี เณรก็เลยบอกว่า น่าจะมีลำกลอน ลำเดิน ลำเพลิน ลำซิ่ง ให้ครบไปเลย ซึ่งถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดที่จะหาที่ใดในภาคอีสานเทียบกับงานนี้ได้เลย
และแล้วก็ถึงวันงาน ผู้คนมาดูเที่ยวงานอย่างเนืองแน่น หมอลำคณะต่างๆ ก็พากันเล่นจบไปก่อนคณะผ้าป่า 2 วัน วันที่ 3 คณะผ้าป่าก็มา ผ้าป่าก็ได้ทอดสมใจของผู้มีจิตศรัทธา เณรได้ฉีกซองผ้าป่าออกมานับเงินดูแล้ว ปรากฎว่า ยอดเงินที่คณะผ้าป่านำมาทอดนั้น รวมทั้งหมดเบ็ดเสร็จ 40,512 บาท เจ้าอาวาทรู้เช่นนั้นตกใจจนเป็นลม ฟื้นอีกทีก็ไปฟื้นที่อนามัย ทว่าในใจคิดว่า คงได้ขายวัดชดใช้ค่าหมอลำเป็นแน่ เฮ่อ “หมอลำจัมโบ้” จริงๆ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
อย่าทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูม
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น