เรื่องชวนหัวในยุคราชวงศ์จีน ตอน คำอัปมงคล
ณ เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีชายผู้หนึ่งมีนิสัยชอบพูดคำหยาบ ทั้งสิ่งที่เอ่ยออกมายังไม่เป็นมงคลอีกด้วย ส่งผลให้ชาวบ้านร้านช่องต่างรังเกียจเดียดฉันท์พฤติกรรมของเขาอย่างยิ่ง
ครั้งหนึ่ง เศรษฐีที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงเพิ่งสร้างโถงรับแขกหลังใหม่เสร็จ ช่างเพิ่งเก็บอุปกรณ์ได้ไม่ทันครบ เศรษฐีก็จัดให้มีงานเลี้ยงฉลองขึ้น ชายผู้นี้แม้จะไม่ได้รับเชิญแต่ก็ตั้งใจจะลอบเข้าไปปะปนเป็นแขกเหรื่อในงานกับเขาด้วย ทว่า เมื่อเดินไปถึงหน้าประตู คนรับใช้เศรษฐีกลับปิดประตูล็อกกลอนเสียแน่นหนา แสดงท่าทีว่าไม่ต้อนรับ
เมื่อเห็นว่าถูกเศรษฐีบ้านใกล้เรือนเคียงหักหน้าเช่นนั้น ชายคนดังกล่าวจึงตะโกนด่าทออยู่หน้าประตูความว่า “ประตูสุนัขปิดเสียแน่นหนา คาดว่าคนที่อยู่ข้างในต้องตายห่ากันหมดแล้วแน่ๆ”
เศรษฐีเจ้าของบ้านซึ่งแอบอยู่ด้านในพอได้ฟังคำด่า ก็โมโหโกรธาอย่างยิ่ง เปิดประตูออกมาโต้กลับว่า “บ้านอั๊วจับจ่ายไปเป็นพันตำลึงทองสร้างโถงรับแขกหลังใหม่ กว่าจะสร้างเสร็จต้องเหนื่อยยากมิใช่น้อย ลื้อกล้าพูดหมาๆ อย่างนี้ออกมาช่างไม่ไว้หน้าอั๊วเสียเลย!” พอได้ยินคำตัดพ้อจากเศรษฐี ชายปากสุนัขจึงตอบกลับว่า “ไอ้ห้องโถงอันนี้ถ้าเอาออกไปเร่ขายอย่างมากข้าว่ามีค่าไม่เกินทองห้าร้อยตำลึง ท่านเศรษฐีกล้าพูดได้อย่างไรว่าห้องโถงของท่านมีค่าสูงถึงพันตำลึงทอง?”
เศรษฐีได้ยินดังนั้นก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ โต้กลับไปอีกว่า “อั๊วยังไม่เคยพูดเลยว่าจะขาย ลื้อมีสิทธิอะไรมาวัดค่าตีราคาทรัพย์สินของอั๊ว!” ชายคนเดิมจึงต่อปากต่อคำกลับไปว่า “ที่ข้าแนะนำให้ท่านขายน่ะก็เพราะหวังดีดอก เพราะหากวันใดเกิดไฟไหม้ขึ้นมา ไอ้ห้องโถงซังกะบ๊วยหลังนี้แม้แต่จะแลกกับขี้หมากองเดียวก็ไม่คุ้ม!”
ต่อมา ยังมีเพื่อนบ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งเจ้าของบ้านกว่าจะมีทายาทสืบสกุลคนแรก อายุก็ปาเข้าไป 50 กว่าปีแล้ว เมื่อมีเรื่องมงคลเช่นนี้ญาติสนิทมิตรสหายและเพื่อนบ้านจึงต่างทยอยเดินทางมาแสดงความยินดี โดยทุกคนเมื่อทราบว่าชายผู้นี้ตั้งใจจะเดินทางมาอวยพรกับเขาด้วยจึงรีบเข้าไปพูดดักหน้าก่อนว่า “เจ้าน่ะ แต่ไหนแต่ไรมาก็ชอบพูดเรื่องอัปมงคล พวกข้าอยากเตือนเจ้าว่าอย่าไปเลยจะดีกว่า” ด้านชายปากสุนัขได้ยินดังนั้นจึงตอบไปว่า “ให้ข้าไปกับพวกเจ้าด้วยเถอะน่า พอถึงที่นั่นข้าจะไม่พูดอะไรเลยสักคำ อย่างนี้พอใจพวกเจ้าหรือยัง?”
พอถึงบ้านดังกล่าว ตั้งแต่เดินเข้าประตูไป จนถึงดื่มสุราอวยพร ชายคนดังกล่าวก็ปิดปากเงียบไม่กล่าววาจาใดๆ ตามที่สัญญาเอาไว้จริงๆ ทำให้เพื่อนฝูงต่างพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งตอนที่กล่าวร่ำลาเจ้าบ้าน เขาจึงพูดออกมาเพียงประโยคเดียวว่า “วันนี้ทั้งวันข้าไม่ได้กล่าวคำอัปมงคลใดๆ สักคำ เพราะฉะนั้นหลังจากข้าก้าวเท้าออกจากบ้านไป ถ้าลูกชายของท่านเกิดป่วยตายขึ้นมาจะมาโทษข้าไม่ได้แล้วนะ!”
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น