เรื่องชวนหัวในยุคราชวงศ์จีน ตอน สุราเป็นเยี่ยงไร
บรรณารักษ์ผู้หนึ่งคลั่งไคล้ในสุราเป็นอย่างยิ่ง บังเอิญว่าเด็กรับใช้ผู้ช่วยในหอคัมภีร์ต่างก็ชื่นชอบในการดื่มสุราเป็นชีวิตจิตใจเช่นกัน หลังถูกเด็กในหอคัมภีร์ลักขโมยดื่มสุราที่บรรณารักษ์สะสมไว้หลายครั้งเข้า เขาจึงตัดสินใจไล่เด็กออก และหมายมั่นปั้นมือว่าจะหาเด็กรับใช้ที่ดื่มสุราไม่เป็นมาแทน
เมื่อสหายของบรรณารักษ์ทราบเรื่องจึงแนะนำลูกน้องมาให้คนหนึ่ง ระหว่างการพบปะบรรณารักษ์ก็ชี้ไปที่ไหสุราเหลืองแล้วถามว่า “นี่คืออะไร?” ลูกน้องของสหายจึงตอบว่า “สุราเฉินเส้า” (สุราขึ้นชื่อของเมืองเส้าซิง) บรรณารักษ์ได้ยินดังนั้นก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ จากนั้นจึงกล่าวว่า “เจ้านี่ แม้แต่ชื่อของสุราก็ยังทราบ เป็นไปได้หรือที่จะไม่ดื่มสุรา?” จากนั้นจึงไล่ลูกน้องเก่าของสหายกลับบ้านไป
ต่อมา สหายก็แนะนำคนรับใช้มาให้อีกคนหนึ่ง โดยระหว่างการสัมภาษณ์บรรณารักษ์ผู้คลั่งไคล้สุราก็ทำเช่นเดิมโดยชี้ไปที่ไหสุราเหลืองแล้วถามว่า “นี่คืออะไร?” คนรับใช้ของสหายจึงตอบว่า “เป็นสุราหวงเตียว” (สุราเหลืองชั้นดีของเส้าซิง) บรรณารักษ์ได้ยินดังนั้นจึงกล่าวว่า “แม้แต่สุราเหลืองชั้นดีก็รู้จัก เจ้าจะไม่ชอบดื่มสุราได้อย่างไร? ใช้การไม่ได้!”
ผ่านไปอีกสองสามวัน ก็มีคนแนะนำคนรับใช้มาให้อีก คราวนี้บรรณารักษ์ก็ยกไหสุราขึ้นมาถามว่า “นี่คืออะไร?” คนรับใช้คนนี้ตอบว่าไม่รู้จัก จากนั้นบรรณารักษ์ก็หยิบเหล้ากลั่น (เซาจิ่ว หรือ โซจูในภาษาเกาหลี) ขึ้นมาให้คนรับใช้ผู้นี้ดู และถามว่ารู้จักไหมว่านี่คืออะไร คนรับใช้ผู้นี้ก็ตอบเหมือนเดิมว่าไม่ทราบ บรรณารักษ์เห็นเช่นนั้นจึงหัวเราะร่าด้วยความยินดีว่า ตนได้คนรับใช้ที่ดื่มสุราไม่เป็นแล้ว จากนั้นจึงรับชายผู้นี้ไว้ทำงาน
มีอยู่วันหนึ่ง บรรณารักษ์ต้องออกไปทำธุระข้างนอก โดยก่อนออกเดินทางได้สั่งการให้ผู้ช่วยคนใหม่ดูแลหอคัมภีร์ให้ดี พร้อมกับกำชับแล้วกำชับอีกว่าสิ่งของที่ต้องดูแลเป็นพิเศษก็คือ หนึ่ง ขาหมูตากแห้งที่แขวนอยู่บนผนัง สอง ไก่เนื้อกลางลานบ้านที่บรรณารักษ์เฝ้าประคบประหงมเป็นอย่างดี และที่สำคัญที่สุดคือไหสุราสองใบที่บรรณารักษ์เก็บเอาไว้อย่างทะนุถนอมในห้องบ่ม โดยก่อนออกเดินทางบรรณารักษ์ได้กล่าวขู่เอาไว้ว่า “หากเจ้าดื่มสิ่งที่อยู่ในไหลงไป ของเหลวในนั้นจะกัดกร่อนกระเพาะและลำไส้ของเจ้าจนถึงแก่ความตายในเวลาอันรวดเร็ว”
หลังบรรณารักษ์ออกเดินทางไปไม่นาน คนรับใช้คนใหม่ก็ลงมือตอนไก่เนื้อตัวอ้วนพี และนำขาหมูตากแห้งไปทำอาหารเป็นกับแกล้มอันโอชะ ก่อนเปิดสุราสองไหนำมาร่วมกินดื่มอย่างสำราญใจ จนในที่สุดก็เมามายไม่ได้สติ ล้มตัวลงนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่กลางลาน
เมื่อบรรณารักษ์เดินทางกลับมาถึง พบเห็นสภาพภายในของหอคัมภีร์เช่นนั้น จึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พร้อมกับอาละวาดเตะคนรับใช้ที่นอนเมามายจนกระทั่งได้สติ ด้านคนรับใช้เมื่อลืมตาเห็นเจ้านายกลับมาจึงเปิดปากอธิบายว่า “หลังจากนายท่านออกเดินทาง ผู้น้อยก็พยายามตั้งใจดูแลทรัพย์สินที่ท่านสั่งการเอาไว้เป็นอย่างดี นึกไม่ถึงว่าไม่นานนักกลับมีแมวตัวเขื่องกลับกระโดดมาคาบไก่อ้วนไป จากนั้นก็มีสุนัขจรจัดลอบมาคาบขาหมูไปอีก ในตอนนั้นผู้น้อยรู้สึกหวาดกลัวในความผิดเป็นอย่างมาก เพราะมิอาจปฏิบัติตามคำที่นายท่านสั่งเอาไว้ได้ พอคิดฆ่าตัวตายจึงเดินไปหยิบไหทั้งสองของท่านออกมา เปิดฝากระดกดื่มของเหลวที่อยู่ข้างในลงไปจนหมด ตอนนี้ ผู้น้อยรู้สึกหัวหมุนๆ ไม่ทราบว่าจะเป็นหรือตาย จึงขอนอนรอโชคชะตาอยู่ ณ ที่นี้แหละนายท่าน!”
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น