เรื่องชวนหัวในยุคราชวงศ์จีน ตอน เหนือหนาวใต้ร้อน
ในสมัยหนึ่ง จีนมีสองจอมคุยโวแห่งยุคปรากฎขึ้นพร้อมกัน หนึ่งอาศัยอยู่ทางทิศใต้ อีกหนึ่งอาศัยอยู่ทางทิศเหนือ ทั้งคู่ต่างถือดีว่าตัวเองมีดี และอยากวัดฝีปากกับอีกฝ่ายว่าจริงๆ แล้วใครสามารถคุยโม้โอ้อวดได้เก่งกว่ากัน
วันหนึ่งทั้งคู่ต่างตัดสินใจออกเดินทางจากถิ่นตัวเองเพื่อมาพบกับอีกฝ่าย เป็นความบังเอิญที่ว่าทั้งคู่มาพบกัน ณ จุดกึ่งกลางทางพอดิบพอดี โดยเมื่อพบหน้าทั้งสองต่างเริ่มต้นพูดคุยกันด้วยถึงเรื่องของสภาพภูมิอากาศตามธรรมเนียม
“ทราบมาว่าที่บ้านของท่านทางเหนือ อากาศหนาวเหน็บอย่างยิ่งใช่หรือไม่ ข้าพเจ้าอยากทราบว่าแท้จริงแล้วที่ว่าหนาวนั้นหนาวถึงขนาดไหนกันแน่?” จอมโวแห่งภาคใต้ชิงถามขึ้นก่อน
“ที่บ้านเกิดของข้าทางเหนือเมื่ออากาศเริ่มหนาวเย็น เวลาปัสสาวะ แม้แต่ปัสสาวะที่ปล่อยออกมาเพียงพริบตาเดียวก็จะกลายเป็นแท่งน้ำแข็ง ด้วยเหตุนี้เวลาออกไปทำธุระนอกบ้านผู้ชายทุกคนต้องพกไม้ไปท่อนหนึ่ง เวลาปวดปัสสาวะต้องคอยเดินปัสสาวะไปเอาไม้เคาะอวัยวะไป มิฉะนั้นจะปัสสาวะไม่ออก ขณะที่เมื่อถึงฤดูหนาวเมื่อลงอาบน้ำในโรงอาบน้ำ หากไม่ระวังก็จะแข็งตายอยู่ในนั้น” จอมโวแห่งภาคเหนือได้โอกาสคุยโต
ได้ยินดังนั้น จอมโวจากทางใต้ก็ยังไม่เชื่อเสียทีเดียว ถามต่อว่า “ถ้าแค่อาบน้ำก็แข็งตายตายเสียแล้ว แล้วเถ้าแก่คนดูแลโรงอาบน้ำไปทำอะไรอยู่ที่ไหนเสียล่ะ?”
พอได้ยินคู่ปรับถามเช่นนั้น จอมโวจากทางเหนือจึงตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเถ้าแก่โรงอาบน้ำหายหัวไปไหน แต่ตอนที่ข้าเข้าไป ข้าเพียงเห็นว่าเดิมในอ่างอาบน้ำมีคนนอนแข็งตายอยู่แล้วคนนึง”
ขณะที่จอมโวจากทางใต้ทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่นั้น จอมโวจากทางเหนือจึงถามกลับว่า “ข้าก็ได้ยินมาว่าอากาศทางตอนใต้แถวบ้านพวกท่านนั้นร้อนอย่างยิ่ง ข้าอยากรู้เหมือนกันว่าที่ว่าร้อนนั้นร้อนถึงขนาดไหนกัน?”
จอมโวทางใต้ได้ยินดังนั้นจึงตอบกลับแบบน้ำไหลไฟดับว่า “ที่บ้านข้านั้นถ้าอากาศร้อนขึ้นมา หากปาไข่ไก่ไปบนกำแพง พอไข่แตกกระทบกับผนังเพียงชั่วครู่ก็จะกลายเป็นไข่สุก นอกจากนี้ในฤดูร้อน หากคนเลี้ยงสุกรวิ่งไล่สุกรที่หลุดออกจากเล้าไปตามถนน วิ่งไปได้ไม่เท่าไหร่สุกรก็จะกลายเป็นสุกรย่าง”
จอมโวทางเหนือพอได้ฟังก็ตกใจอย่างยิ่ง ถามต่อว่า “แม้แต่สุกรยังถูกย่างสุก แล้วคนเลี้ยงสุกรที่ไล่ตามล่ะ?”
เมื่อเห็นคู่ปรับเสียกิริยาอย่างนั้น จอมโวทางใต้จึงได้ทีตอบกลับด้วยสำบัดสำนวนระบุว่า “กระทั่งสุกรยังกลายเป็นสุกรย่าง คนเลี้ยงสุกรฤๅมิใช่กลับกลายเป็นเถ้าถ่านไปก่อนหน้านั้นแล้ว!!!”
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น