นิทานสอนใจ : กบเจ้าถิ่นกับสิงโตผู้รุกราน

นิทานสอนใจ : กบเจ้าถิ่นกับสิงโตผู้รุกราน


ณ บึงเล็กใกล้เชิงเขาแห่งหนึ่ง อันเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงกบมาช้านาน พวกมันอยู่รวมกันอย่างมีความสุข บ้างกระโดดโลดเต้น บ้างหาเหยื่อ บ้างร้องเพลงกบอ๊บๆ ไปตามประสา กบฝูงนี้ต่างพอใจในความเป็นอยู่ของตนที่นี่ พวกมันรักบึงเล็กใกล้เชิงเขาแห่งนี้ และไม่เคยคิดจะย้ายไปอยู่ที่อื่น

อยู่มาวันหนึ่ง มีกบตัวน้อยออกมากระโดดเล่นน้ำฝน และหาเหยื่อที่เชิงเขาตามลำพังอย่างเบิกบานใจ ในขณะนั้นเอง สิงโตต่างถิ่นตัวหนึ่งเดินมาพบเข้า สิงโตตัวนี้มีนิสัยพาลเกเร มันเพิ่งถูกเพื่อนๆ สิงโตขับออกจากฝูงเก่า เลยต้องระเห็จออกมาหาที่อยู่ใหม่ กระทั่งเร่ร่อนมาจนถึงเชิงเขาแห่งนี้ มันรู้สึกถูกใจที่นี่เป็นอย่างมาก เสียอยู่อย่างเดียวว่าที่นี่มีกบอาศัยอยู่เยอะเกินไป และมันไม่ชอบเสียงร้องของกบเอาเสียเลย

“อ๊บๆ เราคือกบ กบอย่างเรานั้นร้องอ๊บๆ” กบน้อยร้องเพลงอย่างเริงร่า พลางกระโดดไปมาด้วยความร่าเริง

“เหวยๆ หุบปากเดี๋ยวนี้นะ เจ้ากบตัวจ้อย” สิงโตคำรามลั่นจนกบน้อยสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ

“อะไรกันเล่า ท่านสิงโตผู้ยิ่งใหญ่ ไยท่านต้องห้ามไม่ให้ข้าส่งเสียงร้องด้วย” กบน้อยร้องถามด้วยความสงสัย

“ข้าไม่ชอบเสียงร้องของพวกเจ้า มันทำให้ข้าหงุดหงิดและรำคาญใจ” สิงโตตอบ “ต่อไปนี้ที่นี่คืออาณาเขตของข้า ถ้าไม่อยากตายก็จงย้ายไปอยู่ที่อื่นกันเสียให้หมด อย่าให้ข้าได้ยินเสียงร้องบ้าๆ บอๆ ของกบอย่างพวกเจ้าอีก ถ้าข้าได้ยิน ข้าจะเหยียบให้แบนติดดินทุกตัวเลย”

กบน้อยตกใจมาก รีบอ้อนวอนแก่สิงโตว่า

“ได้โปรดเถิดท่านสิงโต เมื่อเทียบกับผู้ยิ่งใหญ่อย่างท่านแล้ว เราเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เท่านั้น โปรดอย่าไล่พวกเราออกไปจากที่นี่เลยท่าน เพราะที่นี่คือถิ่นกำเนิดของเราและมีอาหารสมบูรณ์ที่สุด หากว่าท่านต้องการจะอยู่ที่นี่ เราก็อยู่ด้วยกันได้นี่ท่าน”

“ข้าจะเอาที่นี่เป็นของข้าทั้งหมด” สิงโตคำรามอย่างหัวเสีย “เป็นแค่กบอย่าริมาต่อรองอะไรกับข้า ไปบอกพวกของเจ้าทุกตัวให้ย้ายออกไปให้หมด ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่เกรงใจล่ะนะ”

กบน้อยเศร้าใจมาก หากพวกตนต้องอพยพไปอยู่ที่อื่นก็ไม่แน่ว่าจะมีอาหารพอประทังชีวิตหรือไม่ แต่ถ้าไม่ไปก็อาจทำให้สิงโตโกรธและฆ่าพวกตนตายหมดทั้งฝูงได้เหมือนกัน กบน้อยไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดสิงโตจึงมีนิสัยพาลเช่นนี้

“เอาอย่างนี้เถอะนะท่านสิงโต” กบน้อยรวบรวมความกล้าทั้งหมดกล่าวแก่สิงโตซึ่งมองตอบกลับมาด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียมไร้ความเมตตา “ข้ารู้ตัวว่าตนเองนั้นเป็นเพียงกบตัวเล็ก ๆ แต่ข้าก็รักถิ่นกำเนิดของตนเองมากเช่นกัน ดังนั้น หากข้าจะขอท้าแข่งกับท่านโดยใช้เชิงเขาแห่งนี้เป็นเดิมพัน ท่านจะรับคำท้าจากข้าหรือไม่”

สิงโตได้ฟังคำพูดของกบน้อยก็รู้สึกขบขันเป็นอย่างยิ่ง มันหัวเราะลั่นไปทั่วเชิงเขา “เหวยๆ เจ้ากบไม่ประมาณตน กล้ามาท้าข้าเชียวหรือ ไหนว่ามาซิ เจ้าอยากจะแพ้ข้าด้วยการแข่งขันแบบไหนกัน ฮ่าๆ ๆ”

“พรุ่งนี้เรามาวิ่งแข่งรอบภูเขานี้กัน หากใครชนะก็จะได้อยู่ที่เชิงเขานี้ต่อไป ส่วนผู้แพ้จะต้องออกไปจากที่นี่ทันที” กบน้อยเสนอ

“ก๊ากๆ แข่งอะไรไม่แข่ง มาแข่งวิ่งกับข้า อวดดีไปหน่อยแล้วกระมัง แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อเจ้าอยากแพ้ขนาดนั้น ข้าจะช่วยสงเคราะห์ให้”

หลังจากตกลงนัดหมายเวลาและสถานที่กับสิงโตเรียบร้อยแล้ว กบน้อยก็กลับไปเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กบในฝูงฟัง เหล่ากบจึงพากันหารืออย่างเคร่งเครียดถึงวิธีแก้ปัญหานี้

“พวกเราอาศัยอยู่ที่เชิงเขานี่มาช้านานแล้ว ข้าไม่ยอมย้ายออกไปโดยที่เราไม่ได้มีความผิดอะไรหรอกนะ” กบตัวหนึ่งพูดอย่างขุ่นเคือง

“แต่ถ้าเราไม่ไป เราทุกตัวจะโดนสิงโตฆ่าตายนะ” กบแม่ลูกอ่อนกล่าวพลางซับน้ำตา

“กบน้อยเอ๋ย ในเมื่อเจ้าหาญกล้าไปท้าสิงโตวิ่งแข่งรอบเชิงเขาเช่นนั้น ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องมีแผนดีๆ อยู่ในใจแล้วใช่ไหม” กบเฒ่าอายุมากที่สุดในกลุ่มเอ่ยถามกบน้อย

“ข้าเองก็พอจะมีแผนการดีๆ อยู่ แต่จะสำเร็จหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือร่วมใจของพวกเราทุกตัวด้วย” กบน้อยกล่าวกับเหล่ากบในที่นั้น ซึ่งกบทุกตัวต่างก็มุ่งมั่นจะรักษาถิ่นที่อยู่ของตนเอาไว้ให้ได้ ดังนั้นกบน้อยจึงบอกแผนการเอาชนะสิงโตให้กบตัวอื่นๆ ได้ทราบ จากนั้นจึงแบ่งหน้าที่ว่าใครจะรับผิดชอบตรงจุดไหน

เช้าวันรุ่งขึ้น กบกับสิงโตก็มาพบกันยังที่นัดหมาย โดยสิงโตได้เรียกสัตว์ตัวอื่นๆ มาร่วมเป็นสักขีพยานในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นโดยสิงโตเป็นฝ่ายวิ่งนำไปก่อน ส่วนกบก็กระโดดตามไปอย่างสุดกำลัง ทว่ากำลังกระโดดของกบไม่อาจสู้ฝีเท้าของสิงโตได้ สิงโตจึงวิ่งนำไปไกลมาก กระทั่งเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง สิงโตรู้สึกเหนื่อยจึงหันไปมองข้างหลัง ไม่เห็นกบกระโดดตามมา สิงโตจึงชะล่าใจคิดจะนอนพักใต้ต้นไม้สักครู่


สิงโตนอนงีบไปครู่หนึ่ง เมื่อหายเหนื่อยแล้วมันจึงตื่นขึ้นมาวิ่งต่อ พลางตะโกนไปข้างหลังซึ่งมันคิดว่ากบกำลังตาลีตาเหลือกกระโดดตามมาว่า

“เหวยๆ เจ้ากบ ข้านำเจ้ามาไกลแล้วนะเห็นไหม”

พอสิ้นเสียงโอ้อวดของสิงโต ก็มีเสียงกบร้องตะโกนอยู่ข้างหน้าว่า

“อะไรกันท่านสิงโต นี่ข้ากระโดดนำหน้าท่านมาตั้งนานแล้วนะ”

สิงโตพอได้ยินดังนั้นก็ตกใจ รีบเร่งฝีเท้าเพื่อเอาชนะกบให้ได้ สิงโตวิ่งไปได้ครู่ใหญ่ๆ ก็คิดว่าตนเองต้องเลยกบมามากแล้วแน่ๆ จึงตะโกนไปอีกว่า

“เจ้ากบ ข้านำเจ้ามาไกลแล้วนะ ข้าชนะเจ้าแล้ว”

แต่ก็มีเสียงกบตะโกนอยู่ข้างหน้าอีกว่า

“ท่านจะชนะข้าไปได้อย่างไร ในเมื่อท่านยังวิ่งอยู่ข้างหลังข้าแท้ๆ”

สิงโตฟังแล้วก็ตกใจจนหน้าซีด มันกระโดดแผล็วออกวิ่งจนสุดแรงเกิดอีกครั้ง เมื่อคิดว่าตนเองชนะแน่แล้ว มันก็ตะโกนออกไปใหม่ว่า

“เจ้ากบ คราวนี้ข้าชนะเจ้าแน่ๆ เตรียมระเห็จออกไปอยู่ที่อื่นได้แล้ว”

ก็มีเสียงกบตอบกลับมาจากข้างหน้าเช่นเคยว่า

“ท่านวิ่งอยู่ข้างหลังข้า จะมาบอกว่าตนเองชนะได้อย่างไรเล่า”

สิงโตแทบล้มทั้งยืน มันออกแรงไปมากจนตอนนี้แทบไม่มีแรงเหลือวิ่งต่ออีกแล้ว

เมื่อรู้ว่าตนเองพ่ายแพ้กบ สิงโตก็รู้สึกอับอายบรรดาสัตว์ที่มาดูการแข่งขันมากจนทนรับความอดสูนี้ไม่ไหว มันจึงรีบหนีเข้าไปแอบอยู่ในป่าเชิงเขาก่อนที่การแข่งขันจะสิ้นสุดลง เหล่ากบเห็นสิงโตหมดท่าเช่นนั้นก็รู้สึกสงสาร พวกมันรีบปรึกษาหารือกันทันที

“น่าสงสารสิงโตตัวนั้นนะ ถ้าเราไล่เขาไป เขาก็ไม่มีที่จะอยู่น่ะสิ คิดถึงตัวเราแล้ว ถ้าไม่มีที่อยู่ขึ้นมาก็ลำบากเหมือนกันนะ” กบสาวเห็นใจสิงโต

“ว่ากันตามจริงแล้ว เราไม่ได้ชนะสิงโตด้วยซ้ำ เราวางแผนให้พวกเราเหล่ากบไปหลบอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อให้สิงโตคิดว่าเรานำหน้าเขาอยู่ตลอดทางต่างหากเล่า” กบหนุ่มกล่าวบ้าง

“ใช่แล้ว แม้เราจะชนะด้วยปัญญา แต่ก็ไม่ใช่ชัยชนะที่ขาวสะอาดนักหรอก เพราะว่าเราไม่ได้รักษากฎกติกาที่ตกลงไว้กับสิงโต” กบรุ่นใหญ่เห็นด้วยกับกบหนุ่ม

“เราต้องรักษาถิ่นที่อยู่ของเราไว้ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญก็จริง แต่เราก็ควรรับผิดชอบที่เราเล่นไม่ซื่อกับสิงโตด้วย” กบน้อยแสดงความคิดเห็น

หลังจากเหล่ากบปรึกษากันแล้ว กบเฒ่าซึ่งเป็นตัวแทนของฝูงกบจึงกล่าวตะโกนให้สิงโตได้ยินว่า

“ท่านสิงโตผู้ยิ่งใหญ่ ผลการแข่งขันอาจจะออกมาเสมือนว่าท่านแพ้พวกข้าก็จริง แต่พวกข้าจะไม่ไล่ท่านออกไปจากภูเขานี้หรอก ขอให้ท่านทำใจให้สบาย ลืมความแค้นของเรา แล้วอยู่ที่นี่ด้วยกันอย่างสงบเถิด”

สิงโตพอได้ยินกบเฒ่าพูดแสดงน้ำใจเช่นนั้น ก็ยิ่งรู้สึกละอายใจมากขึ้น มันจึงรีบวิ่งหนีออกไปจากภูเขาแห่งนั้น และไม่เคยกลับมาอีกเลย


ขอขอบคุณสำนักพิมพ์ฟรีมายด์ที่เอื้อเฟื้อนิทานสอนใจดีๆ ในชุดหนังสือนิทานสีขาวของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ

yengo หรือ buzzcity

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น