หนันหรงฉูไปพบเหลาจื่อ

หนันหรงฉูไปพบเหลาจื่อ



หนันหรงฉูเดินทางรอนแรมไปเจ็ดวันเจ็ดคืน กระทั่งมาถึงเรือนของเหลาจื่อ เหลาจื่อเอ่ยถาม

“เหตุใดเจ้าจึงมาพร้อมกับฝูงชนมากมายเช่นนี้?”

หนันหรงฉูประหลาดใจยิ่ง พลางหันไปมองข้างหลัง ก็หามีผู้ใดไม่...

เหลาจื่อกล่าวว่า “เมื่อครู่นี้ ข้าได้จ้องมองเข้าไปในดวงตา ก็ล่วงรู้ถึงจิตใจของเจ้า เจ้ากำลังสับสนดั่งเด็กน้อยที่สูญเสียบิดามารดา และกำลังเอาท่อนไม้ไปควานหาทั้งสองในทะเล เจ้ากำลังหลงทาง สับสนรวนเร เจ้าต้องการหวนคืนสู่ธรรมชาติดั้งเดิมของตัวเอง แต่ก็ไม่รู้ทางที่จะเดินไป ช่างน่าสงสารยิ่งนัก”

หนันหรงฉูกล่าวว่า “เมื่อชาวบ้านคนหนึ่งล้มป่วยลง และเพื่อนบ้านของเขาได้มาเยี่ยมถามอาการ หากเขาสามารถอธิบายอาการเจ็บป่วยได้ ความเจ็บป่วยนั้นย่อมไม่ร้ายแรงถึงขั้นไม่อาจเยียวยา แต่บัดนี้ หากข้าจะขอถามถึงเต๋าที่ยิ่งใหญ่ นั่นย่อมเหมือนกับการกินยา ที่มีแต่ซ้ำเติมอาการป่วยไข้ให้เลวร้ายลง จึงเพียงอยากถามถึงหนทางพื้นฐานในการรักษาชีวิตเท่านั้น”

เหลาจื่อตอบว่า “หนทางพื้นฐานในการรักษาชีวิต เจ้าสามารถครองความเป็นหนึ่งเดียวและรักษามันไว้ได้หรือไม่? เจ้าสามารถทำนายถึงโชคและเคราะห์โดยไม่ต้องใช้กระดองเต่าและไม้เสี่ยงทายได้หรือไม่? เจ้ารู้หรือไม่ว่าจะหยุด ณ ที่ใด? จะวางมือเมื่อใด? เจ้ารู้ที่จะเลิกมุ่งหวังเอาเยี่ยงอย่างผู้อื่นและมุ่งแสวงหาในตัวเองได้หรือไม่? เจ้าสามารถอยู่อย่างเรียบง่ายและปราศจากความรู้ได้หรือไม่? เจ้าสามารถเป็นเช่นทารกหรือไม่? ทารกนั้นร้องจ้าตลอดวันโดยที่เสียงไม่เคยแหบแห้ง เนื่องเพราะความกลมกลืนอย่างสูงสุด ทารกกำมือแน่นตลอดวันโดยที่นิ้วไม่เป็นตะคริว เนื่องเพราะคุณธรรมตั้งมั่น ทารกจ้องมองตลอดวันโดยที่ตาไม่กะพริบ เนื่องเพราะไม่มีความลำเอียงต่อโลกภายนอก เคลื่อนไหวโดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง ผ่อนพักโดยไม่รู้ว่ากำลังทำสิ่งใด ล่องลอยเคลื่อนคล้อยร่วมไปกับสิ่งต่างๆ นี่คือกฎพื้นฐานสำหรับการรักษาชีวิต คือสิ่งนี้เท่านั้น ไม่มีอะไรอื่นอีก”

หนันหรงฉูถาม “ทั้งหมดนี้คือคุณธรรมของมนุษย์ที่แท้หรือ?”

“หามิได้ นี่เป็นเพียงสิ่งที่เรียกว่าการกระเทาะน้ำแข็ง การสลายความเย็น มนุษย์ที่แท้นั้นใช้ชีวิตร่วมกับผู้คนในการเสาะหาอาหารจากดิน และแสวงหาความสุขจากฟ้า แต่เขาไม่ทะเลาะเบาะแว้งกับผู้คนในเรื่องผลประโยชน์และการสูญเสีย ในเรื่องของผู้คนและสิ่งต่างๆ ไม่เข้าร่วมในการกระทำอันฉ้อฉล ไม่เข้าร่วมในการวางแผน เขามุ่งหน้าไปอย่างเปี่ยมพลังและไม่เคยอ่อนล้า เขามาอย่างไร้เดียงสาดิบสด นี่คือพื้นฐานแห่งกฎเกณฑ์ของการรักษาชีวิต”

“นี่คือขั้นสูงสุดหรือไม่?”

“หามิได้ เมื่อครู่ข้าได้กล่าวว่า ‘เจ้าสามารถเป็นดั่งทารกได้หรือไม่?’ ทารกกระทำโดยไม่รู้ถึงสิ่งที่กระทำ เคลื่อนไหวโดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง ร่างกายเหมือนกิ่งก้านของไม้ตายซาก จิตใจดั่งเถ้าถ่าน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทั้งโชคและเคราะห์ก็จะไม่มีวันแผ้วพาน เมื่อปลอดจากทั้งโชคและเคราะห์เช่นนี้แล้ว ความทุกข์แห่งมนุษย์จะบังเกิดขึ้นได้อย่างไร?”

แปลเรียบเรียงตัดตอนจากหนังสือจวงจื่อ(庄子)

yengo หรือ buzzcity

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น