เรื่องชวนหัวในยุคราชวงศ์จีน ตอน รัฐสุนัข

เรื่องชวนหัวในยุคราชวงศ์จีน ตอน รัฐสุนัข


เยี่ยนอิง เป็นเสนาบดีของ รัฐฉี ที่มีมีรูปร่างสันทัด ครั้งหนึ่งเยี่ยนอิงได้รับภารกิจเป็นทูตเดินทางไปยัง รัฐฉู่ เพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างสองรัฐ ทว่า อ๋องรัฐฉู่กลับมีจิตใจคับแคบ จงใจจะหลู่เกียรติทูตจากรัฐฉีให้อับอายขายหน้า จึงสั่งให้ขุนนางเจาะประตูขนาดสุนัขลอดข้างประตูเมืองใหญ่ พอเยี่ยนอิงเดินทางมาถึง เหล่าทหารเฝ้าประตูเมืองก็ปิดประตูใหญ่ และเชื้อเชิญเยี่ยนอิงให้คลานเข้าเมืองทางประตูสุนัขลอด

เยี่ยนอิงเห็นดังนั้นก็ทราบทันทีว่าอ๋องรัฐฉู่จงใจกลั่นแกล้งตนเอง จึงยืนกรานกับเหล่าทหารเฝ้าประตูเมืองว่าจะไม่คลานเข้าเมืองทางประตูสุนัข พร้อมกล่าวว่า “หากข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้มาสานสัมพันธ์กับรัฐสุนัข ข้าพเจ้าจึงจะยินยอมพร้อมใจเข้าเมืองทางประตูสุนัข แต่วันนี้ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายภารกิจมายังรัฐฉู่ มิใช่รัฐสุนัข ข้าพเจ้าจึงไม่ควรจะเข้าเมืองฉู่ทางประตูสุนัข”

หลังเข้าเมืองฉู่และถูกเชื้อเชิญไปยังราชวังเพื่อเข้าเฝ้าผู้ครองรัฐฉู่ พอพบเห็นเยี่ยนอิง อ๋องแห่งรัฐฉู่ก็ยังไม่เลิกรา ตรัสถามขึ้นว่า “คิดไม่ถึงว่ารัฐฉีไม่มีคนแล้วหรือ จึงส่งเจ้ามา?” เยี่ยนอิงได้ยินดังนั้นจึงกล่าวตอบว่า “เมืองหลวงของรัฐฉี เมืองหลินจือคลาคล่ำไปด้วยผู้คนราวกับเม็ดฝนที่กำลังตก เหตุใดท่านอ๋องจึงกล่าวว่ารัฐฉีไม่มีคน?”

จากนั้นอ๋องรัฐฉู่จึงถามต่อว่า “เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เหตุใดจึงส่งคนอย่างเจ้ามาที่รัฐฉู่?” เยี่ยนอิงก็ตอบว่า “รัฐฉีมีกฎเกณฑ์เฉพาะตัวอยู่ว่า การส่งทูตออกไปยังต่างรัฐจะพิจารณาจากความสามารถของทูต ทูตที่มีความสามารถมากก็จะถูกส่งไปยังรัฐที่เจ้าผู้ครองรัฐมีความสามารถมาก ทูตที่ไร้ความสามารถก็จะถูกส่งไปพบกับเจ้าผู้ครองรัฐผู้ไร้ความสามารถ โดยสำหรับตัวข้าน้อยนั้นในบรรดาขุนนางรัฐฉีถือว่าไร้ความสามารถที่สุดแล้วล่ะจึงถูกมอบหมายให้มาติดต่อกับท่านอ๋องผู้ยิ่งใหญ่!”

yengo หรือ buzzcity

เรื่องชวนหัวในยุคราชวงศ์จีน ตอน ส่งขุนนาง

เรื่องชวนหัวในยุคราชวงศ์จีน ตอน ส่งขุนนาง


นานมาแล้ว มีขุนนางกังฉินแซ่หม่าผู้หนึ่งมีพฤติกรรมชอบรีดนาทาเร้นชาวบ้านร้านช่องอยู่เป็นนิจ ไม่ว่าจะไปรับตำแหน่ง ณ ท้องที่ใด ชาวบ้านต่างก่นด่าสาปแช่ง

ครั้งหนึ่ง ณ เมืองอันห่างไกล ขุนนางแซ่หม่ากำลังจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งลง ด้วยความที่เป็นกังวลว่าจะหอบเอาของที่รีดไถมากลับไปได้ไม่ครบจึงสั่งให้คนรับใช้นำของทั้งหมดมาได้วางเรียงเพื่อเก็บใส่ถุง ใส่กล่อง ใส่หีบ เตรียมออกเดินทางตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อเห็นว่าสัมภาระที่ตนกอบโกยมาได้ยังไม่เพียงพอ จึงสั่งให้คนงานขุดดินในบริเวณจวนที่พัก และพื้นที่โดยรอบไปขายเอาเงินมาเข้ากระเป๋าตนเองเพิ่มเติมอีก

เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง ขุนนางแซ่หม่าก็ตั้งขบวนออกจากประตูเมือง พอขี่ม้าพ้นประตูเมืองออกไปกลับพบว่าสองฝั่งถนนเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ไม่มีชาวบ้านคนใดออกมาตั้งแถวส่งตนตามธรรมเนียมเลยสักคน ขณะที่ขุนนางแซ่หม่ากำลังรู้สึกขุ่นข้องหมองใจเตรียมระเบิดอารมณ์อยู่นั้นเอง กลับมีลมพัดมาวูบใหญ่ ทันใดนั้นก็ปรากฎผู้คนกลุ่มหนึ่งเดินตรงมายังขบวน สังเกตว่าในมือของทุกคนต่างถือผลหมากรากไม้ และขนมนมเนยมาเต็มมือ

ขุนนางแซ่หม่าเห็นดังนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ พลางเอ่ยถามคนกลุ่มดังกล่าวขึ้นว่า “พวกเจ้าเป็นใครน่ะ เหตุใดจึงออกมาตั้งขบวนส่งข้า?”

หัวขบวนของคนกลุ่มนั้นจึงรีบตอบกลับมาว่า “พวกข้าเป็นผีร้ายประจำท้องถิ่น ต่างติดหนี้บุญคุณของใต้เท้าผู้ยิ่งใหญ่จนมิอาจทดแทนได้หมด พวกเราต้องขอบคุณใต้เท้าที่สั่งให้คนขุดดินในเมืองไปขายเสียจนเกลี้ยง ขุดจนถึงขุมนรกชั้น 18 ที่พวกข้าน้อยอาศัยอยู่ ทำให้พวกข้าได้มีโอกาสเห็นเดือนเห็นตะวัน ด้วยความซาบซึ้ง วันนี้ข้าน้อยจึงตั้งขบวนมาส่งใต้เท้าโดยพร้อมเพรียง”

yengo หรือ buzzcity