นิทานสอนใจ : เพื่อนยากพาย่ำแย่

นิทานสอนใจ : เพื่อนยากพาย่ำแย่


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง ปรากฏมิตรไมตรีอันเด่นชัดระหว่างสัตว์สองตัวคือ ลิง และปลา ซึ่งให้ความนับถือเป็นเพื่อนรักเพื่อนยาก และคอยช่วยเหลือจุนเจือกันมาเป็นเวลานาน

เมื่อมีเวลาว่าง บางครั้งลิงก็จะมาหาปลาที่ริมตลิ่ง และบางครั้งปลาก็ไปเรียกหาลิงที่ต้นมะม่วงใกล้ธารน้ำ ทั้งสองมักจะไปมาหาสู่กันเช่นนี้เพื่อใช้เวลาพูดคุยปรึกษาปัญหาต่าง ๆ รวมไปถึงการปรับทุกข์กันอยู่เสมอ

ว่ากันตามจริงแล้ว การที่สัตว์สองตัวนี้มาจับคู่เป็นเพื่อนยากกันก็นับว่าสมควรอยู่ เพราะต่างก็สามารถใช้คุณสมบัติเฉพาะตัวของตนเกื้อหนุนอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี ดังเช่นลิงนั้น ว่ากันตามจริงแล้วก็ถือว่าเป็นสัตว์ที่ได้เปรียบในการใช้ชีวิตมากกว่าปลา เพราะจะไปไหนมาไหนก็สะดวก มีอิสระเสรีที่จะท่องเที่ยวหาอาหารตามที่ต่าง ๆ ในป่าได้ดั่งที่ใจต้องการ

ลิงจึงนับได้ว่าเป็นผู้กว้างขวางผู้หนึ่งในป่า แต่ลิงก็ไม่ได้ทะนงตนในเรื่องนี้มากมายนัก มันคบปลาเป็นเพื่อนด้วยความบริสุทธิ์ใจ และยังคงเห็นคุณค่าในตัวปลาอยู่เสมอ ด้วยมีความคิดว่า แม้ปลาจะเป็นเพียงสัตว์น้ำตัวเล็ก ๆ แต่หากวันใดวันหนึ่งที่อาหารในป่าหมดไป ตนเองอาจจะต้องเป็นฝ่ายไปขอพึ่งพาอาศัยปลา หรืออีกทางหนึ่งปลาก็ทำให้ลิงกว้างขวางในสังคมสัตว์มากขึ้น เผื่อมีศัตรูใด ๆ มารุกราน ลิงก็อาจขอความช่วยเหลือจากปลา และเหล่าสัตว์น้ำได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด

ส่วนปลา เป็นสัตว์ที่ต้องอาศัยอยู่ในน้ำ ปลาคิดว่าเป็นบุญของตนโดยแท้ที่ได้ลิงมาเป็นเพื่อนยาก เพราะลิงมีน้ำใจช่วยเหลือปลาในเรื่องต่าง ๆ ที่ลิงทำได้มาโดยตลอด นอกจากนั้น หากมีคราวใดที่ปลาเกิดอุบัติเหตุติดค้างอยู่บนบก ลิงก็สามารถช่วยปลามาปล่อยลงน้ำได้อย่างทันท่วงที

ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ลิงไม่กินปลาเป็นอาหาร ดังนั้นการคบลิงจึงมีความปลอดภัยสำหรับปลา ยิ่งไปกว่านั้นบนบกก็มีอาหารกินที่อุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะผลไม้สุก ๆ ซึ่งลิงต้องกินเป็นอาหารอยู่แล้ว ลิงก็มักจะกัดแบ่งผลไม้สุกเหล่านั้นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่เพียงพอกับความต้องการของปลา แล้วส่งให้ปลากินอยู่บ่อย ๆ ลิงและปลาจึงรักและประทับใจในกันและกันไม่เสื่อมคลายด้วยประการฉะนี้

อยู่มาวันหนึ่ง เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ขึ้นในป่า น้ำป่าไหลหลากจนท่วมล้นตลิ่ง และเพิ่มระดับสูงขึ้นจนเกือบจะท่วมถึงกิ่งไม้ ลิงและปลาต่างเป็นห่วงในกันและกันมาก ลิงนั้นเที่ยวกระโดดไปตามกิ่งไม้ที่น้ำยังท่วมไม่ถึงแล้วร้องตะโกนเรียกหาปลา

"ปลาเพื่อนยาก เจ้าอยู่ที่ไหน...อยู่แถวนี้หรือไม่ ช่วยส่งเสียงให้ข้ารับรู้ด้วย ปลาเพื่อนยากของข้า"

ลิงตามหาปลาด้วยความเป็นห่วงยิ่งนัก มันกลัวว่าปลาจะถูกน้ำพัดพาไปติดค้างตามกิ่งไม้ต่างๆ แต่ไม่ว่าจะหาเท่าไรก็ยังไร้ซึ่งวี่แววของปลาเพื่อนรัก มันตามหาปลาไปทั่วป่าจนอ่อนเพลียสิ้นเรี่ยวแรงและผล็อยหลับไปบนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง

ฝ่ายปลาก็เป็นห่วงลิงมากไม่แพ้กัน มันกลัวว่าลิงจะพลัดตกน้ำและจมน้ำตาย ปลาจึงเที่ยวว่ายน้ำหาลิงไปทั่วทุกหนแห่งที่มันจะสามารถว่ายฝ่าไปได้ด้วยกำลังทั้งหมดจากครีบเล็ก ๆ ทั้งสองของมัน

"เราต้องตามหาลิงให้พบและช่วยลิงให้ได้ ลิงช่วยเรามามากแล้ว ถึงคราวที่เราจะได้ตอบแทนบุญคุณเพื่อนรักของเราบ้าง" ปลาคิดในใจและว่ายน้ำหาลิงต่อไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะต้องช่วยลิงให้ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปนานแล้ว ปลาก็ยังหาลิงไม่พบ ครีบน้อย ๆ ของมันที่ใช้แหวกว่ายทวนกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากมาตลอดทางเริ่มอ่อนล้าจนแทบขยับไม่ได้


"ตอนนี้เราไร้เรี่ยวแรงจะว่ายน้ำต่อไป หากยังฝืนตัวเอง เราคงได้หมดกำลังและตายเสียก่อนที่จะได้ช่วยลิงเป็นแน่ เพราะฉะนั้นเราจะพักตัวเองสักครู่ เมื่อมีแรงแล้วจึงค่อยว่ายน้ำหาลิงต่อไปจะดีกว่า" ปลาบอกกับตัวเอง แล้วว่ายเข้าไปหลบพักอยู่ในโพรงรากไม้ที่ถูกน้ำท่วมถึงต้นหนึ่งเพื่อออมแรงไว้ก่อน

แต่แล้วธรรมชาติก็เมตตาช่วยให้เพื่อนรักทั้งสองมาพบกันจนได้ เพราะน้ำที่ท่วมป่าได้พัดพาเอาร่างน้อย ๆ ของปลาที่กำลังพักผ่อนเอาแรงอยู่ในโพรงไม้ เคลื่อนขึ้นไปกระทบกับกิ่งไม้ที่ลิงพักหลับอยู่

เมื่อลิงถูกน้ำป่ากระเด็นมากระทบตัวก็ตกใจตื่น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นปลาซึ่งถูกกระแสน้ำพัดพามาทางที่ตนอยู่พอดี ลิงดีใจมากรีบยื่นมือออกไปคว้าร่างของปลาไว้ แล้วนำปลาไปวางไว้บนยอดไม้ เพื่อไม่ให้ปลาถูกกระแสน้ำพัดพาต่อไปอีก

"ตื่นเถิดเพื่อนเอ๋ย" ลิงปลุกปลาจนต้องตื่นตามเสียงเรียกของเพื่อนรัก

"โอ...ลิงเพื่อนยาก" ปลาร้องด้วยความดีใจเมื่อเห็นหน้าลิง "ข้าตามหาเพื่อนอยู่นานมากแล้วรู้ไหม แต่หาเท่าไร ๆ ก็ไม่พบ เพื่อนไปอยู่ไหนมาเล่า"

"ข้าก็เที่ยวตามหาเพื่อนจนสิ้นแรงเช่นกัน แต่โชคดีที่โชคชะตาชักนำให้เรามาพบกันอีก ข้าเห็นเพื่อนถูกน้ำพัดมาเลยรีบคว้าร่างเพื่อนไว้ แล้วนำมาวางไว้บนยอดไม้นี่ ด้วยเกรงว่าเพื่อนอาจจะถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวพัดพาไปพบกับอันตรายได้" ลิงกล่าวแก่ปลา

"โอ...ลิงเพื่อนยาก ท่านมีบุญคุณกับข้าอีกแล้วหรือนี่ ข้าหวังว่าจะได้ช่วยเพื่อนบ้าง แต่กลายเป็นว่าเป็นว่าเพื่อนต้องมาช่วยข้าอีก" ปลาตัดพ้อตัวเอง

"อย่าพูดอย่างนั้นเลยปลาเพื่อนรัก เพื่อนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของข้า ข้าไม่ยอมให้เพื่อนเป็นอะไรหรอก...ว่าแต่เพื่อนอยู่บนยอดไม้นี่สบายดีหรือไม่" ลิงถามปลาด้วยความเป็นห่วง

"ขอบใจลิงมากที่นำข้ามาอยู่บนยอดไม้นี้ ข้าสบายดี และเห็นด้วยกับเพื่อนว่าหากอยู่ในน้ำที่พัดแรงอย่างนั้นต่อไป ตัวข้าอาจจะไปกระแทกกับโขดหินตายเสียก่อนก็เป็นได้" ปลาเห็นด้วยกับลิงโดยลืมไปเสียสนิทว่าตนเองเป็นสัตว์น้ำ ก็ต้องอยู่ในน้ำ

"ถ้าเพื่อนว่าอย่างนี้ข้ากับเบาใจ เอาอย่างนี้นะ เพื่อนพักอยู่บนนี้ก่อน เดี๋ยวข้าจะไปหาอาหารดี ๆ มาให้เพื่อนกินเอง" ลิงบอกแก่ปลาแล้วรีบปีนป่ายต้นไม้ออกไปหาอาหารให้ปลาทันที

ในไม่ช้าเมื่อลองกลับมายังยอดไม้ที่ปลานอนอยู่ ลิงก็แทบเป็นลมทั้งยืน เมื่อเห็นปลาเพื่อนยาก นอนแน่นิ่งสิ้นใจอยู่บนยอดไม้ที่ลิงพามาหลบกระแสน้ำอยู่นั่นเอง

ดังนั้น เธอทั้งหลาย...จงยืนยันในเจตนารมณ์อันดีงามของเธอ ที่มุ่งมั่นในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่เดือดร้อนต่อไปเถิด ความหวังดีของคนเราซึ่งมีต่อผู้อื่นนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ดีและช่วยให้สังคมของเราน่าอยู่ขึ้นเป็นแน่ แต่บางครั้ง บางกรณีบางบุคคล เราก็ต้องศึกษา ทำความเข้าใจในรากเหง้าของปัญหาและธรรมชาติของคนผู้ซึ่งต้องการรับความช่วยเหลือให้ถ่องแท้เสียก่อน แล้วจึงค่อยหยิบยื่นความช่วยเหลือแก่เขาไปอย่างเต็มที่ หากเป็นดังนี้ ความช่วยเหลือของเธอ จึงจะสร้างคุณประโยชน์ให้เกิดแก่ผู้เดือดร้อนได้ดีเป็นที่สุด

และในแง่ของผู้ซึ่งต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่นนั้น ขอจงอย่าขาดสติในตนเอง และมัวหลงดีใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาหยิบยื่นให้ แต่ต้องคิดให้รอบคอบด้วยว่า ความช่วยเหลือที่เขาให้แก่เรานั้น ถูกต้องเหมาะสมตามที่เรากำลังเดือดร้อนจริงหรือไม่ และตรงกับสภาพตามธรรมชาติของเราด้วยหรือเปล่า

มิเช่นนั้น ความช่วยเหลือที่ตั้งใจมอบให้ ก็อาจจะนำพาซึ่งผลร้ายและความเสียหายอย่างใหญ่หลวงมาสู่ผู้เดือดร้อน มากกว่าผลดีที่เขาผู้นั้นสมควรจะได้รับจริง ๆ

////////////////////////

ขอขอบคุณสำนักพิมพ์ฟรีมายด์ที่เอื้อเฟื้อนิทานสอนใจดี ๆ ในชุดหนังสือนิทานสีขาวของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

yengo หรือ buzzcity

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น