นิทานสอนใจ : ถ้าจะรัก ก็จงรักอย่างเปิดเผย
เรื่อง "If love, love openly" ถ้าจะรัก ก็จงรักอย่างเปิดเผย เป็นเรื่องเล่ามาจากวัดนิกายเซ็น ซึ่งมีพระภิกษุอยู่หลายสิบรูปและมีนักบวชผู้หญิงที่เรียกว่า nun หรือ "แม่ชี" อยู่คนหนึ่ง ชื่อว่า "เอฉุ่น" รวมอยู่ด้วย
เอฉุ่นเป็นหญิ่งสาวที่สวยมาก แม้จะเอาผมออกเสียหมดแล้ว แม้จะใช้เครื่องนุ่งห่มของนักบวชที่ดูไม่หรูหราก้ยังดูสวยอยู่นั่นเอง และทำความวุ่ยวายให้แก่ภิกษุทั้งหมดในวัดเป็นอย่างมาก พูดได้ว่าแทบจะไม่มีจิตใจที่สงบได้
ซึ่งมีพระภิกษุองค์หนึ่งอยู่ไม่ได้ จนต้องเขียนจดหมายส่งไปถึงเอฉุ่น ขอร้องเพื่อให้เธอมาพบกันแบบส่วนตัว เอฉุ่นก็ไม่ได้ตอบจดหมายฉบับนั้นแต่อย่างใด
พอวันรุ่งขึ้นในขณะที่มีการประชุมกันอยู่ ซึ่งมีชาวบ้านมาร่วมด้วยจำนวนมาก เมื่อการประชุมเสร็จสิ้นลง เอฉุ่นก็ยืนขึ้นแล้วกล่าวถึงภิกษุองค์ที่ส่งจดหมายมาให้ว่า ภิกษุองค์ใดส่งจดหมายมาถึงฉันขอให้ก้าวออกมาข้างหน้าเถิด ถ้ารักฉันมากจริงๆ ก็จงมากอดฉันที่ตรงนี้
นิทานเรื่องนี้สอนว่า การอบรมที่ตรงไปตรงมาตามแบบของนิกายเซ็นนั้น เมื่อมีความกล้ามากก็ทำให้คนเรามีความกล้าหาญมากขึ้น และไม่มีความลับใดที่จะต้องปิดบัง ถึงใครจะว่าอย่างไรก็จะไม่ปกปิด คือสามารถที่จะเปิดเผยตนเองได้
เนื่องจากเป้นคนที่มีสัจจะ มีความจริงอยู่ในตัว โดยไม่ถือว่าความลับที่มีอยู่ในโลกนี้ เราจะต้องเป็นผู้ที่ปฏิญญาตัวอย่างว่าอย่างไร จะต้องทำอย่างนั้น โดยที่ไม่มีความลับปกปิดไว้ให้เป็นเครื่องเตือนใจ แม้ในการจะเรียนตัวเองว่า "ครู" อย่างนี้เป็นต้น
บางคนกระดากหรือร้อนๆ หนาวๆ ที่ว่าจะถูกเรียกว่าครู หรือจะถูกขอร้องให้ปฏิญญาความเป็นครู ซึ่งเหตุนี้แสดงว่าไม่เปิดเผยอย่างเพียงพอ ยังไม่กล้าหาญพอ การที่จะกล้าปฏิญญาว่าเป็นครูไปตลอดชีวิตหรือไม่ ยิ่งจะไม่กล้าไปกันใหญ่
ทั้งนี้ ใครที่กำลังจะลงเรือน้อยข้ามฟากไปฟากอื่นซึ่งไม่ใช่เมืองของครูบ้าง ก็ดูเหมือนไม่กล้าเปิดเผย เพราะคนเราไม่ชอบความกล้าหาญ และการเปิดเผยกันอย่างมาก แฉกเช่นเดียวกับพระภิกษุจากนิทานเรื่องนี้ก็เหมือนกัน
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น